TOPICS

CATEGORY

วิธีทำความสะอาดและรักษาเสื้อสูท

29.12.2020

BUSINESS

เป็นที่ทราบกันดีว่าราคาของเสื้อสูทแต่ละตัวค่อนข้างสูงพอสมควร ดังนั้นทุกคนต่างก็อยากให้เสื้อสูทใช้ได้นาน ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นมันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการทำความสะอาดและดูแลรักษาเสื้อสูทของคุณเอง ซึ่งก็มีขั้นตอนมากมายนอกเหนือจากการนำไปแขวนกับไม้แขวนเสื้อหรือโยนเข้าเครื่องซักผ้าอย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะฉะนั้นคงจะดีกว่าหากคุณทราบถึงวิธีการดูแลรักษาสูทให้ถูกต้อง ด้วยอุปกรณ์และวิธีการต่อไปนี้

 

อุปกรณ์ทำความสะอาดและรักษาเสื้อสูท
1. แปรงปัดฝุ่น

ในแต่ละวันเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า จะมีเศษฝุ่นผงมาเกาะติดอยู่บนสูทมากเท่าไร เอาเป็นว่าหลังจากใส่แล้วทุกครั้งให้ทำความสะอาดด้วยแปรง ซึ่งจะว่าไปนี้คือขั้นตอนสำคัญที่ทำให้เสื้อสูทดูดีอยู่เสมอ โดยลักษณะของแปรงทำความสะอาดเสื้อสูทก็คล้ายกับแปรงผมทั่วไป หากขนแปรงไม่ใช่ขนสัตว์ก็จะเป็นพวกใยสังเคราะห์ แต่ไม่ว่าจะเลือกขนแปรงชนิดใดมาใช้ ก็ควรเลือกขนแปรงที่อ่อนนุ่ม ไม่แข็งหรือหยาบเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อผ้าเกิดความเสียหาย ส่วนวิธีการใช้ก็แค่แปรงลงทางเดียวคล้ายกับการโกนหนวดนั่นเอง

2. ไม้แขวนเสื้อ

คุณควรจะมีไม้แขวนเสื้อที่มีขนาดความกว้างและความยาวที่พอดีกับเสื้อสูท รับน้ำหนักเสื้อได้ เพื่อรักษารูปทรงตั้งแต่ปกเสื้อ หัวไหล่ และช่วงลำตัวให้คงสภาพเดิมอยู่เสมอ พร้อมทั้งป้องกันรอยยับที่อาจเกิดขึ้นด้วย และหากจะให้ดีก็ควรหลีกเลี่ยงการแขวนเสื้อสูทกับเก้าอี้ทำงาน แล้วหันมาใช้ไม้แขวนเสื้อทุกครั้งเมื่อไม่สวมจะดีกว่า

3. ถุงคลุมเสื้อสูท

ถุงคลุมเสื้อสูทมีทั้งแบบผ้าใบและพลาสติก ซึ่งการเลือกใช้งานก็ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ควรจะมีถุงเสื้อสูทติดตู้เสื้อผ้าเอาไว้สักใบ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยป้องกันรอยยับ ฝุ่นผง และแมลงรบกวนได้ดีทีเดียว อีกทั้งยังไม่ต้องห่วงเรื่องกลิ่นอับ แค่เพียงแขวนเสื้อสูททิ้งไว้ประมาณ 1 วันก่อนนำมาใส่ถุงคลุม และไม่ใส่เสื้อสูทในถุงพร้อมกันทีละหลายตัวจนแน่นเกินไปเท่านั้นเอง

 

ขั้นตอนทำความสะอาดและรักษาเสื้อสูท

 

1. ซักแห้งกำจัดคราบ

การทำความสะอาดเสื้อสูทขึ้นอยู่กับลักษณะของเนื้อผ้า แต่ส่วนใหญ่แล้วเหมาะกับการซักแห้งเสียมากกว่า และทำเพียงปีละ 1-2 ครั้งก็พอ โดยในระหว่างการใช้ผู้สวมใส่ก็แค่หมั่นดูแลและขจัดความสกปรกบนเนื้อผ้าด้วยผ้าสะอาด และนำเสื้อสูทแขวนทิ้งไว้ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดีหลังการสวมใส่ทุกครั้ง เพื่อป้องกันกลิ่นอับก็พอ

2. ขจัดรอยยับด้วยไอน้ำ

ขจัดรอยยับกับกลิ่นบนเสื้อสูทควรใช้เตารีดไอน้ำแบบยืนมากกว่าเตารีดทั่วไป เนื่องจากเตารีดแบบนี้จะไม่ส่งผลกระทบกับเนื้อผ้า ในขณะที่เตารีดทั่วไปมักจะมีความร้อนสูง แถมยังสัมผัสกับเนื้อผ้าโดยตรง จึงทำให้เส้นใยบนเนื้อผ้าเสียหายได้ง่ายกว่า และเป็นไปได้ก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้เตารีดทุกชนิดรีดบนกระเป๋าเสื้อสูท เพราะอาจทำให้ผ้าซับในของกระเป๋าเสื้อเสียรูปทรงได้

3. ปัดฝุ่นด้วยแปรงและลูกกลิ้ง
อย่างที่ทุกคนรู้กันดีว่า เสื้อสูทมักมีสิ่งสกปรกกับฝุ่นผงต่าง ๆ เข้ามาเกาะติดได้ง่าย ดังนั้นจึงควรจะใช้แปรงปัดฝุ่นปัดเสื้อสูททุกครั้งหลังจากใช้งาน โดยเริ่มจากช่วงหัวไหล่แล้วค่อย ๆ ปัดไล่ลงมาทีละส่วน และปัดไปในทิศทางเดียวกัน ส่วนลูกกลิ้งก็เอาไว้ใช้กำจัดพวกเส้นผม ขนสัตว์ ที่อาจติดมาบนเสื้อ เพื่อรักษาลุคให้ดูสวยงามอยู่เสมอ

4. นำไปแขวน

หลังจากทำความสะอาดเสร็จเรียบร้อยทุกขั้นตอนแล้ว ให้นำเสื้อสูทไปแขวนกับไม้แขวนเสื้อทุกครั้ง โดยไม้แขวนเสื้อที่ดีนั้นก็ควรมีลักษณะที่ตรงกับรูปทรงของเสื้อสูทด้วย โดยเฉพาะความกว้างบริเวณช่วงไหล่ เพื่อรักษาสภาพเสื้อสูทให้คงเดิมอยู่เสมอ และหากจะให้ดีก็ควรเป็นไม้แขวนเสื้อที่ผลิตจากไม้ธรรมชาติ เนื่องจากวัสดุดังกล่าวสามารถช่วยดูดซับความชื้นจากเนื้อผ้าได้

5. ใส่ถุงคลุมเสื้อสูททุกครั้งที่มีการเคลื่อนย้าย
ไม่ว่าคุณจะพกพาเสื้อสูทไปที่ไหนเมื่อไรก็ควรจะเก็บสูทเอาไว้ในถุงคลุมเสื้อตลอดการเดินทาง หากไม่ได้นำมาสวมใส่ในระหว่างนั้น เพื่อป้องกันสิ่งสกปรกที่อาจทำให้สูทเปรอะเปื้อน และถ้าจะให้ดีควรหาถุงคลุมแบบที่พกพาง่าย มีน้ำหนักเบา และสามารถระบายอากาศได้ดี

6. ไม่สวมซ้ำติดกันหลายวัน

สิ่งสำคัญที่ควรหลีกเลี่ยงคือการสวมเสื้อสูทตัวเดียวกัน ติดต่อกันหลายวัน เพื่อป้องกันการเสื่อมสภาพ และยังทำให้ภาพลักษณ์ของคุณดูหมองลงไปด้วย ดังนั้นจะดีกว่าหากมีการสลับเสื้อสูทตัวอื่นในตู้เสื้อผ้ามาสวมใส่แทน

 

Cr.https://men.kapook.com/view88956.html?fbclid=IwAR2jRyc-a1FG_veZQ11Uq0yZFn09f5TVBXE7iv7VS8YvvnOwsA7yX38IQeU